DW ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใช้เงินลงทุนไม่มากเมื่อเที่ยบกับผลตอบแทนที่ได้รับ ในที่นี้ผลตอบแทนหมายถึงนักลงทุนมีโอกาสได้รับกำไรเยอะๆ หรือขาดทุนเยอะได้เช่นกัน
จุดเด่นที่สำคัญของ DW คือสามารถให้นักลงทุนสามารถทำกำไรได้ คือ Call DW เหมาะสม ในสภาวะตลาดขาขึ้น และ Put DW เหมาะสมในสภาวะตลาดขาลง
ราคา DW มักจะต่ำกว่ามูลค่าตลาดของหุ้นอ้างอิงมาก เช่น DW ราคา 5 บาท ราคาหุ้นอ้างอิงต่อ 1 DW อยู่ที่ 50 บาท แปลว่า นักลงทุนจ่ายค่าคอมมิสชั่นในการซื้อ DW น้อยลง 10 เท่าเมื่อเทียบกับการซื้อขายหุ้นอ้างอิง
การเปรียบเทียบว่า DW ตัวใดถูกกว่า ควรพิจารณาความผันผวนแฝง (Implied Volatility) DW ตัวใดมีความผันผวนแฝงน้อยกว่านั้นถือว่าถูกกว่า แต่ในทางปฏิบัติ DW ที่ได้รับความนิยมอย่างไม่ได้มีความผันผวนแฝงน้อยที่สุดก็ได้ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะใช้ความผันผวนแฝงเป็นปัจจัยหลักในการตัดสินใจ
นักลงทุนบางคนอาจชอบซื้อ DW ราคาต่ำๆ เช่น 1 สตางค์ เพราะคิดว่าถ้าราคาปรับเพียง 1 ช่วงราคา จะทำให้ตนได้รับกำไรทันที 100% ซึ่งเหตุการณ์นี้มีโอกาสเกิดได้แต่น้อยมาก ทำให้นักลงทุนอาจขาดทุนเม็ดเงินลงทุนทั้งหมด อีกทั้งเมื่อราคา DW ต่ำกว่า 5 สตางค์ ผู้ดูแลสภาพคล่องไม่จำเป็นต้องรับซื้อคืนแล้ว อาจทำให้ราคาของ DW นั้นลดลงอย่างรวดเร็ว
เพราะเมื่อเวลาผ่านไปราคา DW จะค่อยๆ ลดลงอันเนื่องจากการเสื่อมค่าทางเวลา
ราคาของ DW จะค่อยๆลดลงตามการเสื่อมค่าของเวลา แม้ว่านักลงทุนจะลงทุนถูกทาง และควรได้กำไร แต่ถ้าถือ DW ไว้เป็นระยะเวลานานเกินไป ผลของเวลาอาจทำให่กลายเป็นขาดทุนได้
เนื่องจากนักลงทุนจะเสียภาษีเงินได้ตามประมวลรัษฎากร มาตรา40(8) หรือภาษีเงินได้ประเภทที่ 8 เว้นแต่ว่าจะมีกรณีที่ขายไม่ได้ เพราะไม่มีผู้รับซื้อคืนอันเนื่องจากว่าราคาใกล้ศูนย์ ในกรณีนี้นักลงทุนจะขาดทุนเงินลงทุนทั้งหมดแทน