HERO Trainer - Finansia Syrus (จำนวนที่รับ - คน)
คุณสมบัติ
ลักษณะงาน
สถานที่ทำงาน : สำนักงานมิ้นท์ ทาวเวอร์ (700 เมตร จาก BTS สนามกีฬาแห่งชาติ)
บริษัท ฟินันเซีย เอกซ์ จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด และ บริษัท ฟินันเซีย ดิจิทัล แอสเซท จำกัด (รวมเรียกว่า "กลุ่มบริษัท ฟินันเซีย เอกซ์" หรือ "บริษัท") ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้าง ให้คำมั่นที่จะคุ้มครองความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานประจำและลูกจ้างที่ไม่ใช่พนักงานประจำของบริษัท ทั้งในปัจจุบัน ในอดีต และที่เกษียณแล้ว ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงาน ตลอดจนข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร (รวมเรียกว่า "คุณ" หรือ "ของคุณ") นโยบายความเป็นส่วนตัวด้านทรัพยากรบุคคลฉบับนี้ ("นโยบาย") มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลแก่คุณเกี่ยวกับวิธีการที่บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ (ตามที่นิยามไว้ด้านล่างนี้) และสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณซึ่งเกี่ยวข้องกับการจ้างงาน
บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ เพื่อที่จะเข้าทำสัญญาจ้างงานกับคุณ และปฏิบัติตามสัญญาจ้างงานในด้านที่สำคัญต่าง ๆ เช่น การจ่ายค่าจ้างและให้ผลประโยชน์แก่คุณ หากบริษัทไม่สามารถดำเนินการที่เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศตามที่ระบุในนโยบายฉบับนี้ บริษัทอาจจะไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาจ้างงานที่ทำกับคุณได้ และในบางกรณี บริษัทอาจจะไม่สามารถว่าจ้างคุณหรือว่าจ้างคุณต่อไปได้ หากคุณคือกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร บริษัทขอแจ้งนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้แก่คุณในฐานะกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร ทราบเกี่ยวกับความจำเป็นในการเก็บ รวบรวม ใช้ รวมถึงเปิดเผย หรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ และ/หรือผู้บริหารที่บริษัทจำเป็นต้องดำเนินการ เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะบริษัทต่อคุณตามกฎหมาย อันได้แก่ พระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด และประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ รวมถึงระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เป็นต้น และภายใต้สัญญาการแต่งตั้งกรรมการและ/หรือผู้บริหารที่บริษัทมีกับคุณ
นโยบายฉบับนี้มิใช่ส่วนหนึ่งของสัญญาจ้างงาน และบริษัทอาจปรับปรุงนโยบายฉบับนี้เป็นครั้งคราว กรุณาตรวจสอบนโยบายฉบับล่าสุดที่ระบบ Intranet ของบริษัท เป็นระยะ ๆ โดยบริษัทจะแจ้งเตือนให้คุณทราบหรือขอความยินยอมจากคุณอีกครั้งหากมีการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญในนโยบายฉบับนี้ หรือหากบริษัทมีความจำเป็นตามกฎหมายที่จะต้องทำการแจ้งเตือนให้คุณทราบหรือขอความยินยอมจากคุณอีกครั้ง
หากคุณคือพนักงาน ลูกจ้าง หรือผู้สมัครงาน
"ข้อมูลส่วนบุคคล" หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับคุณซึ่งระบุถึงตัวคุณหรือข้อมูลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวคุณได้ ตามที่ระบุไว้ด้านล่างนี้ ทั้งนี้ ในการจ้างงานคุณ บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลของคุณด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น บริษัทอาจร้องขอข้อมูลส่วนบุคคลจากคุณโดยตรง หรือจากแหล่งต่าง ๆ โดยอ้อม (เช่น ผู้บังคับบัญชาของคุณ หน่วยงานของรัฐ ผู้ให้บริการภายนอกด้านทรัพยากรบุคคล สื่อสังคมออนไลน์ แพลตฟอร์มออนไลน์และแหล่งข้อมูลสาธารณะอื่น ๆ)
ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณซึ่งบริษัทจะเก็บรวมรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลส่วนบุคคลประเภทดังต่อไปนี้
"ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน" หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายจัดประเภทเป็นข้อมูลที่ละเอียดอ่อน บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลที่ละเอียดอ่อนไปยังต่างประเทศก็ต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากคุณ หรือก็ต่อเมื่อกฎหมายอนุญาตให้กระทำได้
ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคุณซึ่งบริษัทจะเก็บรวมรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศ ได้แก่
หากคุณคือกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร
"ข้อมูลส่วนบุคคล" หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับกรรมการและ/หรือผู้บริหารที่ทำให้สามารถระบุตัวตนของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นส่วนของข้อมูลที่ทางบริษัทอาจได้รับข้อมูลดังกล่าวโดยตรงจากการที่คุณแจ้งข้อมูลให้แก่บริษัท ใบแบบฟอร์มการตรวจสอบคุณสมบัติหรือทะเบียนกรรมการและ/หรือผู้บริหารเข้าใหม่ หรือจากการที่บริษัทอาจตรวจสอบข้อมูลของคุณจากฐานข้อมูลของหน่วยงานราชการหรือแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือโดยเฉพาะเพื่อการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร ทั้งนี้ บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร ดังต่อไปนี้
นอกจากข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ และ/หรือผู้บริหารโดยตรงแล้ว ในกรณีที่กรรมการ และ/หรือผู้บริหาร เป็นผู้ให้ข้อมูลของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร เช่น คู่สมรส หรือบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เมื่อกรรมการ และ/หรือผู้บริหารให้ข้อมูลดังกล่าวแก่บริษัท บริษัทจะถือว่า กรรมการ และ/หรือผู้บริหารรับประกันว่า กรรมการ และ/หรือผู้บริหารมีสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าว และได้แจ้งความจำเป็นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือขอความยินยอมจากบุคคลดังกล่าวครบถ้วน และถูกต้องแล้ว ดังนั้น บริษัทย่อมมีสิทธิในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าวทั้งหมดได้โดยสมบูรณ์ ภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้
หากคุณได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกแก่บริษัท [(เช่น ชื่อ นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ ความสัมพันธ์กับคุณ] [ของคู่สมรส ผู้รับผลประโยชน์ บุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับการถือหลักทรัพย์ของคุณ)] คุณขอรับรองว่าคุณมีอำนาจที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว และอนุญาตให้บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามนโยบายฉบับนี้ได้ อีกทั้งคุณจะรับผิดชอบในการแจ้งให้บุคคลภายนอกเหล่านั้นทราบถึงนโยบายฉบับนี้ และ/หรือขอรับความยินยอมจากบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง หากจำเป็น
บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคุณไปยังต่างประเทศ เพื่อดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานของคุณ และเพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ของบริษัทในฐานะนายจ้างของคุณและในการดำเนินธุรกิจ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
บริษัทอาศัยความยินยอมของคุณในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคุณไปยังต่างประเทศเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
ในกรณีที่หลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายคือการขอความยินยอม คุณมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของคุณเมื่อใดก็ได้ โดยคุณสามารถติดต่อ หัวหน้าฝ่ายบุคคลของบริษัท เพื่อถอนความยินยอม การถอนความยินยอมจะต้องไม่กระทบต่อความชอบด้วยกฎหมายของการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย และการโอนข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคุณไปยังต่างประเทศตามความยินยอมของคุณก่อนที่จะขอถอน
บริษัทอาจอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายดังต่อไปนี้เพื่อเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ กล่าวคือ (ก) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา สำหรับการเข้าทำสัญญาจ้างงานหรือการปฏิบัติตามสัญญาจ้างงานกับคุณ (ข) เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย (ค) เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทและของบุคคลภายนอก เพื่อให้สมดุลกับประโยชน์และสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ (ง) เพื่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล และ (จ) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐ
หากคุณคือผู้สมัครงาน บริษัทจะอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายใน (ก) ถึง (จ) ข้างต้น เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
หากคุณคือพนักงานหรือลูกจ้างที่ไม่ใช่พนักงานประจำของบริษัท บริษัทจะอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายใน (ก) ถึง (จ) ข้างต้น เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
หากคุณคือกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร บริษัทจะอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายใน (ก) ถึง (จ) ข้างต้น เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
เพียงเท่าที่กฎหมายอนุญาตการที่คุณไม่ให้ข้อมูลบางอย่างแก่บริษัทเมื่อมีการร้องขออาจมีผลกระทบต่อการปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางสัญญาหรือทางกฎหมายของบริษัท ซึ่งอาจกระทบต่อกระบวนการสรรหาบุคลากร การจ้างงาน หรือการตัดสินใจจ้างงานคุณ หรือถอนการเสนอจ้างงาน
บริษัทอาจเปิดเผย หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังบุคคลภายนอกภายในประเทศไทยหรือนอกประเทศไทยดังต่อไปนี้ ซึ่งประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ตามนโยบายฉบับนี้ โดยคุณสามารถอ่านนโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลภายนอกเหล่านั้นเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่บุคคลภายนอกดังกล่าวประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณได้
หากคุณคือกรรมการและ/หรือผู้บริหาร โดยทั่วไปข้อมูลส่วนบุคคลที่กรรมการและ/หรือผู้บริหารให้แก่บริษัทจะไม่ถูกเปิดเผยให้แก่บุคคลภายนอก แต่อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการและ/หรือผู้บริหารนั้นอาจมีความจำเป็นต้องได้รับการเปิดเผยให้แก่บุคคล ดังต่อไปนี้
เมื่อบริษัทโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลภายนอก บริษัทจะดำเนินการเพื่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ เช่น การเข้าทำความตกลงการเก็บรักษาความลับ หรือการดำเนินมาตรการความปลอดภัยที่เหมาะสมตามที่กฎหมายกำหนด
บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังบุคคลภายนอก หรือเครื่องแม่ข่ายที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศซึ่งประเทศปลายทางอาจมี หรืออาจไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลในลักษณะเดียวกันกับประเทศไทย ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการตามขั้นตอนและมาตรการต่าง ๆ เพื่อทำให้คุณมั่นใจได้ว่าการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจะโอนอย่างปลอดภัยและบุคคลที่รับโอนข้อมูลนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และการโอนข้อมูลนั้นชอบด้วยกฎหมายโดยอาศัยข้อยกเว้นตามที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นอย่างสมเหตุสมผล เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นตามที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ และเพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางกฎหมายและกฎข้อบังคับต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของคุณนานขึ้นหากจำเป็นตามกฎหมายที่ใช้บังคับ และหากคุณคือกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร บริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผลและเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการและ/หรือผู้บริหารแต่ละท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ดังที่ระบุไว้ข้างต้นเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็น กล่าวคือ (i) ตลอดระยะเวลาตราบเท่าที่คุณยังมีฐานะเป็นกรรมการ และ/หรือผู้บริหารของบริษัทและตลอดระยะเวลาสัญญาที่บริษัทอาจยังมีหน้าที่ต้องปฏิบัติให้แก่กรรมการและ/หรือผู้บริหาร หรือ (ii) ตลอดระยะเวลาที่บริษัทอาจมีหน้าที่ภายใต้กฎหมายใด ๆ ในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไว้ ซึ่งอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงระยะเวลาการจัดทำเอกสารบัญชี นอกจากนี้ เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบสิทธิและการปกป้องสิทธิของบริษัทและของคุณภายใต้สถานะบริษัทและกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร บริษัทสงวนสิทธิ์ที่จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการและ/หรือผู้บริหารเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมเพิ่มเติมตามกรอบอายุความที่เหมาะสมหลังจากที่กรรมการและ/หรือผู้บริหารสิ้นสุดสภาพการเป็นกรรมการและ/หรือผู้บริหาร ทั้งนี้ บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลของคุณไว้ ตามระยะเวลาอายุความตามกฎหมายทั่วไปสูงสุด 10 ปี
โดยทั่วไป กิจกรรมของบริษัท (รวมถึงกระบวนการสรรหาบุคลากร กิจกรรมการจ้างงาน และกิจกรรมกับลูกจ้างที่ไม่ใช่พนักงานประจำ) ไม่ได้มีเป้าหมายที่ผู้เยาว์ และบริษัทจะไม่เจตนาเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ และคนไร้ความสามารถ หากคุณเป็นผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ หรือคนไร้ความสามารถซึ่งประสงค์จะมีความสัมพันธ์ทางการจ้างงานหรือทางสัญญากับบริษัท คุณต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองหรือผู้อนุบาลของคุณก่อนที่จะติดต่อบริษัทหรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณแก่บริษัท หากคุณเป็นผู้เยาว์ที่อายุเกิน 10 ปีแต่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ (โดยอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์หรือโดยการสมรส) คุณต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองของคุณ
ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายและข้อยกเว้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง คุณอาจมีสิทธิตามที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้
หากคุณมีความประสงค์ที่จะใช้สิทธิของคุณที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ หรือหากคุณประสงค์จะยื่นเรื่องร้องเรียนหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โปรดติดต่อบริษัทหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ที่
คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ฟินันเซีย เอกซ์ จำกัด (มหาชน)
ที่อยู่ที่ติดต่อ 999/9 อาคาร ดิ ออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 18, 25 ถนนพระราม 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
อีเมล dpo@finansiax.com
Relationship Manager (RM) - Finansia Syrus (จำนวนที่รับ - คน)
คุณสมบัติ
ลักษณะงาน
บริษัท ฟินันเซีย เอกซ์ จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด และ บริษัท ฟินันเซีย ดิจิทัล แอสเซท จำกัด (รวมเรียกว่า "กลุ่มบริษัท ฟินันเซีย เอกซ์" หรือ "บริษัท") ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้าง ให้คำมั่นที่จะคุ้มครองความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานประจำและลูกจ้างที่ไม่ใช่พนักงานประจำของบริษัท ทั้งในปัจจุบัน ในอดีต และที่เกษียณแล้ว ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงาน ตลอดจนข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร (รวมเรียกว่า "คุณ" หรือ "ของคุณ") นโยบายความเป็นส่วนตัวด้านทรัพยากรบุคคลฉบับนี้ ("นโยบาย") มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลแก่คุณเกี่ยวกับวิธีการที่บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ (ตามที่นิยามไว้ด้านล่างนี้) และสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณซึ่งเกี่ยวข้องกับการจ้างงาน
บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ เพื่อที่จะเข้าทำสัญญาจ้างงานกับคุณ และปฏิบัติตามสัญญาจ้างงานในด้านที่สำคัญต่าง ๆ เช่น การจ่ายค่าจ้างและให้ผลประโยชน์แก่คุณ หากบริษัทไม่สามารถดำเนินการที่เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศตามที่ระบุในนโยบายฉบับนี้ บริษัทอาจจะไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาจ้างงานที่ทำกับคุณได้ และในบางกรณี บริษัทอาจจะไม่สามารถว่าจ้างคุณหรือว่าจ้างคุณต่อไปได้ หากคุณคือกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร บริษัทขอแจ้งนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้แก่คุณในฐานะกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร ทราบเกี่ยวกับความจำเป็นในการเก็บ รวบรวม ใช้ รวมถึงเปิดเผย หรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ และ/หรือผู้บริหารที่บริษัทจำเป็นต้องดำเนินการ เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะบริษัทต่อคุณตามกฎหมาย อันได้แก่ พระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด และประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ รวมถึงระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เป็นต้น และภายใต้สัญญาการแต่งตั้งกรรมการและ/หรือผู้บริหารที่บริษัทมีกับคุณ
นโยบายฉบับนี้มิใช่ส่วนหนึ่งของสัญญาจ้างงาน และบริษัทอาจปรับปรุงนโยบายฉบับนี้เป็นครั้งคราว กรุณาตรวจสอบนโยบายฉบับล่าสุดที่ระบบ Intranet ของบริษัท เป็นระยะ ๆ โดยบริษัทจะแจ้งเตือนให้คุณทราบหรือขอความยินยอมจากคุณอีกครั้งหากมีการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญในนโยบายฉบับนี้ หรือหากบริษัทมีความจำเป็นตามกฎหมายที่จะต้องทำการแจ้งเตือนให้คุณทราบหรือขอความยินยอมจากคุณอีกครั้ง
หากคุณคือพนักงาน ลูกจ้าง หรือผู้สมัครงาน
"ข้อมูลส่วนบุคคล" หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับคุณซึ่งระบุถึงตัวคุณหรือข้อมูลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวคุณได้ ตามที่ระบุไว้ด้านล่างนี้ ทั้งนี้ ในการจ้างงานคุณ บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลของคุณด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น บริษัทอาจร้องขอข้อมูลส่วนบุคคลจากคุณโดยตรง หรือจากแหล่งต่าง ๆ โดยอ้อม (เช่น ผู้บังคับบัญชาของคุณ หน่วยงานของรัฐ ผู้ให้บริการภายนอกด้านทรัพยากรบุคคล สื่อสังคมออนไลน์ แพลตฟอร์มออนไลน์และแหล่งข้อมูลสาธารณะอื่น ๆ)
ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณซึ่งบริษัทจะเก็บรวมรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลส่วนบุคคลประเภทดังต่อไปนี้
"ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน" หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายจัดประเภทเป็นข้อมูลที่ละเอียดอ่อน บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลที่ละเอียดอ่อนไปยังต่างประเทศก็ต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากคุณ หรือก็ต่อเมื่อกฎหมายอนุญาตให้กระทำได้
ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคุณซึ่งบริษัทจะเก็บรวมรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศ ได้แก่
หากคุณคือกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร
"ข้อมูลส่วนบุคคล" หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับกรรมการและ/หรือผู้บริหารที่ทำให้สามารถระบุตัวตนของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นส่วนของข้อมูลที่ทางบริษัทอาจได้รับข้อมูลดังกล่าวโดยตรงจากการที่คุณแจ้งข้อมูลให้แก่บริษัท ใบแบบฟอร์มการตรวจสอบคุณสมบัติหรือทะเบียนกรรมการและ/หรือผู้บริหารเข้าใหม่ หรือจากการที่บริษัทอาจตรวจสอบข้อมูลของคุณจากฐานข้อมูลของหน่วยงานราชการหรือแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือโดยเฉพาะเพื่อการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร ทั้งนี้ บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร ดังต่อไปนี้
นอกจากข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ และ/หรือผู้บริหารโดยตรงแล้ว ในกรณีที่กรรมการ และ/หรือผู้บริหาร เป็นผู้ให้ข้อมูลของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร เช่น คู่สมรส หรือบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เมื่อกรรมการ และ/หรือผู้บริหารให้ข้อมูลดังกล่าวแก่บริษัท บริษัทจะถือว่า กรรมการ และ/หรือผู้บริหารรับประกันว่า กรรมการ และ/หรือผู้บริหารมีสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าว และได้แจ้งความจำเป็นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือขอความยินยอมจากบุคคลดังกล่าวครบถ้วน และถูกต้องแล้ว ดังนั้น บริษัทย่อมมีสิทธิในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าวทั้งหมดได้โดยสมบูรณ์ ภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้
หากคุณได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกแก่บริษัท [(เช่น ชื่อ นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ ความสัมพันธ์กับคุณ] [ของคู่สมรส ผู้รับผลประโยชน์ บุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับการถือหลักทรัพย์ของคุณ)] คุณขอรับรองว่าคุณมีอำนาจที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว และอนุญาตให้บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามนโยบายฉบับนี้ได้ อีกทั้งคุณจะรับผิดชอบในการแจ้งให้บุคคลภายนอกเหล่านั้นทราบถึงนโยบายฉบับนี้ และ/หรือขอรับความยินยอมจากบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง หากจำเป็น
บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคุณไปยังต่างประเทศ เพื่อดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานของคุณ และเพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ของบริษัทในฐานะนายจ้างของคุณและในการดำเนินธุรกิจ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
บริษัทอาศัยความยินยอมของคุณในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคุณไปยังต่างประเทศเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
ในกรณีที่หลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายคือการขอความยินยอม คุณมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของคุณเมื่อใดก็ได้ โดยคุณสามารถติดต่อ หัวหน้าฝ่ายบุคคลของบริษัท เพื่อถอนความยินยอม การถอนความยินยอมจะต้องไม่กระทบต่อความชอบด้วยกฎหมายของการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย และการโอนข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคุณไปยังต่างประเทศตามความยินยอมของคุณก่อนที่จะขอถอน
บริษัทอาจอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายดังต่อไปนี้เพื่อเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ กล่าวคือ (ก) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา สำหรับการเข้าทำสัญญาจ้างงานหรือการปฏิบัติตามสัญญาจ้างงานกับคุณ (ข) เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย (ค) เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทและของบุคคลภายนอก เพื่อให้สมดุลกับประโยชน์และสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ (ง) เพื่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล และ (จ) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐ
หากคุณคือผู้สมัครงาน บริษัทจะอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายใน (ก) ถึง (จ) ข้างต้น เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
หากคุณคือพนักงานหรือลูกจ้างที่ไม่ใช่พนักงานประจำของบริษัท บริษัทจะอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายใน (ก) ถึง (จ) ข้างต้น เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
หากคุณคือกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร บริษัทจะอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายใน (ก) ถึง (จ) ข้างต้น เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
เพียงเท่าที่กฎหมายอนุญาตการที่คุณไม่ให้ข้อมูลบางอย่างแก่บริษัทเมื่อมีการร้องขออาจมีผลกระทบต่อการปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางสัญญาหรือทางกฎหมายของบริษัท ซึ่งอาจกระทบต่อกระบวนการสรรหาบุคลากร การจ้างงาน หรือการตัดสินใจจ้างงานคุณ หรือถอนการเสนอจ้างงาน
บริษัทอาจเปิดเผย หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังบุคคลภายนอกภายในประเทศไทยหรือนอกประเทศไทยดังต่อไปนี้ ซึ่งประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ตามนโยบายฉบับนี้ โดยคุณสามารถอ่านนโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลภายนอกเหล่านั้นเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่บุคคลภายนอกดังกล่าวประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณได้
หากคุณคือกรรมการและ/หรือผู้บริหาร โดยทั่วไปข้อมูลส่วนบุคคลที่กรรมการและ/หรือผู้บริหารให้แก่บริษัทจะไม่ถูกเปิดเผยให้แก่บุคคลภายนอก แต่อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการและ/หรือผู้บริหารนั้นอาจมีความจำเป็นต้องได้รับการเปิดเผยให้แก่บุคคล ดังต่อไปนี้
เมื่อบริษัทโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลภายนอก บริษัทจะดำเนินการเพื่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ เช่น การเข้าทำความตกลงการเก็บรักษาความลับ หรือการดำเนินมาตรการความปลอดภัยที่เหมาะสมตามที่กฎหมายกำหนด
บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังบุคคลภายนอก หรือเครื่องแม่ข่ายที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศซึ่งประเทศปลายทางอาจมี หรืออาจไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลในลักษณะเดียวกันกับประเทศไทย ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการตามขั้นตอนและมาตรการต่าง ๆ เพื่อทำให้คุณมั่นใจได้ว่าการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจะโอนอย่างปลอดภัยและบุคคลที่รับโอนข้อมูลนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และการโอนข้อมูลนั้นชอบด้วยกฎหมายโดยอาศัยข้อยกเว้นตามที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นอย่างสมเหตุสมผล เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นตามที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ และเพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางกฎหมายและกฎข้อบังคับต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของคุณนานขึ้นหากจำเป็นตามกฎหมายที่ใช้บังคับ และหากคุณคือกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร บริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผลและเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการและ/หรือผู้บริหารแต่ละท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ดังที่ระบุไว้ข้างต้นเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็น กล่าวคือ (i) ตลอดระยะเวลาตราบเท่าที่คุณยังมีฐานะเป็นกรรมการ และ/หรือผู้บริหารของบริษัทและตลอดระยะเวลาสัญญาที่บริษัทอาจยังมีหน้าที่ต้องปฏิบัติให้แก่กรรมการและ/หรือผู้บริหาร หรือ (ii) ตลอดระยะเวลาที่บริษัทอาจมีหน้าที่ภายใต้กฎหมายใด ๆ ในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไว้ ซึ่งอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงระยะเวลาการจัดทำเอกสารบัญชี นอกจากนี้ เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบสิทธิและการปกป้องสิทธิของบริษัทและของคุณภายใต้สถานะบริษัทและกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร บริษัทสงวนสิทธิ์ที่จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการและ/หรือผู้บริหารเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมเพิ่มเติมตามกรอบอายุความที่เหมาะสมหลังจากที่กรรมการและ/หรือผู้บริหารสิ้นสุดสภาพการเป็นกรรมการและ/หรือผู้บริหาร ทั้งนี้ บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลของคุณไว้ ตามระยะเวลาอายุความตามกฎหมายทั่วไปสูงสุด 10 ปี
โดยทั่วไป กิจกรรมของบริษัท (รวมถึงกระบวนการสรรหาบุคลากร กิจกรรมการจ้างงาน และกิจกรรมกับลูกจ้างที่ไม่ใช่พนักงานประจำ) ไม่ได้มีเป้าหมายที่ผู้เยาว์ และบริษัทจะไม่เจตนาเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ และคนไร้ความสามารถ หากคุณเป็นผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ หรือคนไร้ความสามารถซึ่งประสงค์จะมีความสัมพันธ์ทางการจ้างงานหรือทางสัญญากับบริษัท คุณต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองหรือผู้อนุบาลของคุณก่อนที่จะติดต่อบริษัทหรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณแก่บริษัท หากคุณเป็นผู้เยาว์ที่อายุเกิน 10 ปีแต่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ (โดยอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์หรือโดยการสมรส) คุณต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองของคุณ
ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายและข้อยกเว้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง คุณอาจมีสิทธิตามที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้
หากคุณมีความประสงค์ที่จะใช้สิทธิของคุณที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ หรือหากคุณประสงค์จะยื่นเรื่องร้องเรียนหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โปรดติดต่อบริษัทหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ที่
คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ฟินันเซีย เอกซ์ จำกัด (มหาชน)
ที่อยู่ที่ติดต่อ 999/9 อาคาร ดิ ออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 18, 25 ถนนพระราม 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
อีเมล dpo@finansiax.com
ผู้แนะนำการลงทุน (สาขานครราชสีมา) - Finansia Syrus (จำนวนที่รับ 1 คน)
คุณสมบัติ
ลักษณะงาน
Workplace: สาขานครราชสีมา
บริษัท ฟินันเซีย เอกซ์ จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด และ บริษัท ฟินันเซีย ดิจิทัล แอสเซท จำกัด (รวมเรียกว่า "กลุ่มบริษัท ฟินันเซีย เอกซ์" หรือ "บริษัท") ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้าง ให้คำมั่นที่จะคุ้มครองความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานประจำและลูกจ้างที่ไม่ใช่พนักงานประจำของบริษัท ทั้งในปัจจุบัน ในอดีต และที่เกษียณแล้ว ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงาน ตลอดจนข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร (รวมเรียกว่า "คุณ" หรือ "ของคุณ") นโยบายความเป็นส่วนตัวด้านทรัพยากรบุคคลฉบับนี้ ("นโยบาย") มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลแก่คุณเกี่ยวกับวิธีการที่บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ (ตามที่นิยามไว้ด้านล่างนี้) และสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณซึ่งเกี่ยวข้องกับการจ้างงาน
บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ เพื่อที่จะเข้าทำสัญญาจ้างงานกับคุณ และปฏิบัติตามสัญญาจ้างงานในด้านที่สำคัญต่าง ๆ เช่น การจ่ายค่าจ้างและให้ผลประโยชน์แก่คุณ หากบริษัทไม่สามารถดำเนินการที่เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศตามที่ระบุในนโยบายฉบับนี้ บริษัทอาจจะไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาจ้างงานที่ทำกับคุณได้ และในบางกรณี บริษัทอาจจะไม่สามารถว่าจ้างคุณหรือว่าจ้างคุณต่อไปได้ หากคุณคือกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร บริษัทขอแจ้งนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้แก่คุณในฐานะกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร ทราบเกี่ยวกับความจำเป็นในการเก็บ รวบรวม ใช้ รวมถึงเปิดเผย หรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ และ/หรือผู้บริหารที่บริษัทจำเป็นต้องดำเนินการ เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะบริษัทต่อคุณตามกฎหมาย อันได้แก่ พระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด และประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ รวมถึงระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เป็นต้น และภายใต้สัญญาการแต่งตั้งกรรมการและ/หรือผู้บริหารที่บริษัทมีกับคุณ
นโยบายฉบับนี้มิใช่ส่วนหนึ่งของสัญญาจ้างงาน และบริษัทอาจปรับปรุงนโยบายฉบับนี้เป็นครั้งคราว กรุณาตรวจสอบนโยบายฉบับล่าสุดที่ระบบ Intranet ของบริษัท เป็นระยะ ๆ โดยบริษัทจะแจ้งเตือนให้คุณทราบหรือขอความยินยอมจากคุณอีกครั้งหากมีการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญในนโยบายฉบับนี้ หรือหากบริษัทมีความจำเป็นตามกฎหมายที่จะต้องทำการแจ้งเตือนให้คุณทราบหรือขอความยินยอมจากคุณอีกครั้ง
หากคุณคือพนักงาน ลูกจ้าง หรือผู้สมัครงาน
"ข้อมูลส่วนบุคคล" หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับคุณซึ่งระบุถึงตัวคุณหรือข้อมูลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวคุณได้ ตามที่ระบุไว้ด้านล่างนี้ ทั้งนี้ ในการจ้างงานคุณ บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลของคุณด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น บริษัทอาจร้องขอข้อมูลส่วนบุคคลจากคุณโดยตรง หรือจากแหล่งต่าง ๆ โดยอ้อม (เช่น ผู้บังคับบัญชาของคุณ หน่วยงานของรัฐ ผู้ให้บริการภายนอกด้านทรัพยากรบุคคล สื่อสังคมออนไลน์ แพลตฟอร์มออนไลน์และแหล่งข้อมูลสาธารณะอื่น ๆ)
ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณซึ่งบริษัทจะเก็บรวมรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลส่วนบุคคลประเภทดังต่อไปนี้
"ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน" หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายจัดประเภทเป็นข้อมูลที่ละเอียดอ่อน บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลที่ละเอียดอ่อนไปยังต่างประเทศก็ต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากคุณ หรือก็ต่อเมื่อกฎหมายอนุญาตให้กระทำได้
ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคุณซึ่งบริษัทจะเก็บรวมรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศ ได้แก่
หากคุณคือกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร
"ข้อมูลส่วนบุคคล" หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับกรรมการและ/หรือผู้บริหารที่ทำให้สามารถระบุตัวตนของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นส่วนของข้อมูลที่ทางบริษัทอาจได้รับข้อมูลดังกล่าวโดยตรงจากการที่คุณแจ้งข้อมูลให้แก่บริษัท ใบแบบฟอร์มการตรวจสอบคุณสมบัติหรือทะเบียนกรรมการและ/หรือผู้บริหารเข้าใหม่ หรือจากการที่บริษัทอาจตรวจสอบข้อมูลของคุณจากฐานข้อมูลของหน่วยงานราชการหรือแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือโดยเฉพาะเพื่อการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร ทั้งนี้ บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร ดังต่อไปนี้
นอกจากข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ และ/หรือผู้บริหารโดยตรงแล้ว ในกรณีที่กรรมการ และ/หรือผู้บริหาร เป็นผู้ให้ข้อมูลของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร เช่น คู่สมรส หรือบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เมื่อกรรมการ และ/หรือผู้บริหารให้ข้อมูลดังกล่าวแก่บริษัท บริษัทจะถือว่า กรรมการ และ/หรือผู้บริหารรับประกันว่า กรรมการ และ/หรือผู้บริหารมีสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าว และได้แจ้งความจำเป็นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือขอความยินยอมจากบุคคลดังกล่าวครบถ้วน และถูกต้องแล้ว ดังนั้น บริษัทย่อมมีสิทธิในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าวทั้งหมดได้โดยสมบูรณ์ ภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้
หากคุณได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกแก่บริษัท [(เช่น ชื่อ นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ ความสัมพันธ์กับคุณ] [ของคู่สมรส ผู้รับผลประโยชน์ บุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับการถือหลักทรัพย์ของคุณ)] คุณขอรับรองว่าคุณมีอำนาจที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว และอนุญาตให้บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามนโยบายฉบับนี้ได้ อีกทั้งคุณจะรับผิดชอบในการแจ้งให้บุคคลภายนอกเหล่านั้นทราบถึงนโยบายฉบับนี้ และ/หรือขอรับความยินยอมจากบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง หากจำเป็น
บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคุณไปยังต่างประเทศ เพื่อดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานของคุณ และเพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ของบริษัทในฐานะนายจ้างของคุณและในการดำเนินธุรกิจ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
บริษัทอาศัยความยินยอมของคุณในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคุณไปยังต่างประเทศเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
ในกรณีที่หลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายคือการขอความยินยอม คุณมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของคุณเมื่อใดก็ได้ โดยคุณสามารถติดต่อ หัวหน้าฝ่ายบุคคลของบริษัท เพื่อถอนความยินยอม การถอนความยินยอมจะต้องไม่กระทบต่อความชอบด้วยกฎหมายของการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย และการโอนข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคุณไปยังต่างประเทศตามความยินยอมของคุณก่อนที่จะขอถอน
บริษัทอาจอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายดังต่อไปนี้เพื่อเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ กล่าวคือ (ก) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา สำหรับการเข้าทำสัญญาจ้างงานหรือการปฏิบัติตามสัญญาจ้างงานกับคุณ (ข) เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย (ค) เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทและของบุคคลภายนอก เพื่อให้สมดุลกับประโยชน์และสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ (ง) เพื่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล และ (จ) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐ
หากคุณคือผู้สมัครงาน บริษัทจะอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายใน (ก) ถึง (จ) ข้างต้น เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
หากคุณคือพนักงานหรือลูกจ้างที่ไม่ใช่พนักงานประจำของบริษัท บริษัทจะอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายใน (ก) ถึง (จ) ข้างต้น เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
หากคุณคือกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร บริษัทจะอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายใน (ก) ถึง (จ) ข้างต้น เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
เพียงเท่าที่กฎหมายอนุญาตการที่คุณไม่ให้ข้อมูลบางอย่างแก่บริษัทเมื่อมีการร้องขออาจมีผลกระทบต่อการปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางสัญญาหรือทางกฎหมายของบริษัท ซึ่งอาจกระทบต่อกระบวนการสรรหาบุคลากร การจ้างงาน หรือการตัดสินใจจ้างงานคุณ หรือถอนการเสนอจ้างงาน
บริษัทอาจเปิดเผย หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังบุคคลภายนอกภายในประเทศไทยหรือนอกประเทศไทยดังต่อไปนี้ ซึ่งประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ตามนโยบายฉบับนี้ โดยคุณสามารถอ่านนโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลภายนอกเหล่านั้นเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่บุคคลภายนอกดังกล่าวประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณได้
หากคุณคือกรรมการและ/หรือผู้บริหาร โดยทั่วไปข้อมูลส่วนบุคคลที่กรรมการและ/หรือผู้บริหารให้แก่บริษัทจะไม่ถูกเปิดเผยให้แก่บุคคลภายนอก แต่อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการและ/หรือผู้บริหารนั้นอาจมีความจำเป็นต้องได้รับการเปิดเผยให้แก่บุคคล ดังต่อไปนี้
เมื่อบริษัทโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลภายนอก บริษัทจะดำเนินการเพื่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ เช่น การเข้าทำความตกลงการเก็บรักษาความลับ หรือการดำเนินมาตรการความปลอดภัยที่เหมาะสมตามที่กฎหมายกำหนด
บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังบุคคลภายนอก หรือเครื่องแม่ข่ายที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศซึ่งประเทศปลายทางอาจมี หรืออาจไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลในลักษณะเดียวกันกับประเทศไทย ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการตามขั้นตอนและมาตรการต่าง ๆ เพื่อทำให้คุณมั่นใจได้ว่าการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจะโอนอย่างปลอดภัยและบุคคลที่รับโอนข้อมูลนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และการโอนข้อมูลนั้นชอบด้วยกฎหมายโดยอาศัยข้อยกเว้นตามที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นอย่างสมเหตุสมผล เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นตามที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ และเพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางกฎหมายและกฎข้อบังคับต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของคุณนานขึ้นหากจำเป็นตามกฎหมายที่ใช้บังคับ และหากคุณคือกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร บริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผลและเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการและ/หรือผู้บริหารแต่ละท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ดังที่ระบุไว้ข้างต้นเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็น กล่าวคือ (i) ตลอดระยะเวลาตราบเท่าที่คุณยังมีฐานะเป็นกรรมการ และ/หรือผู้บริหารของบริษัทและตลอดระยะเวลาสัญญาที่บริษัทอาจยังมีหน้าที่ต้องปฏิบัติให้แก่กรรมการและ/หรือผู้บริหาร หรือ (ii) ตลอดระยะเวลาที่บริษัทอาจมีหน้าที่ภายใต้กฎหมายใด ๆ ในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไว้ ซึ่งอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงระยะเวลาการจัดทำเอกสารบัญชี นอกจากนี้ เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบสิทธิและการปกป้องสิทธิของบริษัทและของคุณภายใต้สถานะบริษัทและกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร บริษัทสงวนสิทธิ์ที่จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการและ/หรือผู้บริหารเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมเพิ่มเติมตามกรอบอายุความที่เหมาะสมหลังจากที่กรรมการและ/หรือผู้บริหารสิ้นสุดสภาพการเป็นกรรมการและ/หรือผู้บริหาร ทั้งนี้ บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลของคุณไว้ ตามระยะเวลาอายุความตามกฎหมายทั่วไปสูงสุด 10 ปี
โดยทั่วไป กิจกรรมของบริษัท (รวมถึงกระบวนการสรรหาบุคลากร กิจกรรมการจ้างงาน และกิจกรรมกับลูกจ้างที่ไม่ใช่พนักงานประจำ) ไม่ได้มีเป้าหมายที่ผู้เยาว์ และบริษัทจะไม่เจตนาเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ และคนไร้ความสามารถ หากคุณเป็นผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ หรือคนไร้ความสามารถซึ่งประสงค์จะมีความสัมพันธ์ทางการจ้างงานหรือทางสัญญากับบริษัท คุณต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองหรือผู้อนุบาลของคุณก่อนที่จะติดต่อบริษัทหรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณแก่บริษัท หากคุณเป็นผู้เยาว์ที่อายุเกิน 10 ปีแต่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ (โดยอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์หรือโดยการสมรส) คุณต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองของคุณ
ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายและข้อยกเว้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง คุณอาจมีสิทธิตามที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้
หากคุณมีความประสงค์ที่จะใช้สิทธิของคุณที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ หรือหากคุณประสงค์จะยื่นเรื่องร้องเรียนหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โปรดติดต่อบริษัทหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ที่
คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ฟินันเซีย เอกซ์ จำกัด (มหาชน)
ที่อยู่ที่ติดต่อ 999/9 อาคาร ดิ ออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 18, 25 ถนนพระราม 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
อีเมล dpo@finansiax.com
ผู้แนะนำการลงทุน (สนง.ใหญ่/สาขา กทม. ปริมณฑล) - Finansia Syrus (จำนวนที่รับ - คน)
คุณสมบัติ
ลักษณะงาน
บริษัท ฟินันเซีย เอกซ์ จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด และ บริษัท ฟินันเซีย ดิจิทัล แอสเซท จำกัด (รวมเรียกว่า "กลุ่มบริษัท ฟินันเซีย เอกซ์" หรือ "บริษัท") ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้าง ให้คำมั่นที่จะคุ้มครองความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานประจำและลูกจ้างที่ไม่ใช่พนักงานประจำของบริษัท ทั้งในปัจจุบัน ในอดีต และที่เกษียณแล้ว ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงาน ตลอดจนข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร (รวมเรียกว่า "คุณ" หรือ "ของคุณ") นโยบายความเป็นส่วนตัวด้านทรัพยากรบุคคลฉบับนี้ ("นโยบาย") มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลแก่คุณเกี่ยวกับวิธีการที่บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ (ตามที่นิยามไว้ด้านล่างนี้) และสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณซึ่งเกี่ยวข้องกับการจ้างงาน
บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ เพื่อที่จะเข้าทำสัญญาจ้างงานกับคุณ และปฏิบัติตามสัญญาจ้างงานในด้านที่สำคัญต่าง ๆ เช่น การจ่ายค่าจ้างและให้ผลประโยชน์แก่คุณ หากบริษัทไม่สามารถดำเนินการที่เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศตามที่ระบุในนโยบายฉบับนี้ บริษัทอาจจะไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาจ้างงานที่ทำกับคุณได้ และในบางกรณี บริษัทอาจจะไม่สามารถว่าจ้างคุณหรือว่าจ้างคุณต่อไปได้ หากคุณคือกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร บริษัทขอแจ้งนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้แก่คุณในฐานะกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร ทราบเกี่ยวกับความจำเป็นในการเก็บ รวบรวม ใช้ รวมถึงเปิดเผย หรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ และ/หรือผู้บริหารที่บริษัทจำเป็นต้องดำเนินการ เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะบริษัทต่อคุณตามกฎหมาย อันได้แก่ พระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด และประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ รวมถึงระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เป็นต้น และภายใต้สัญญาการแต่งตั้งกรรมการและ/หรือผู้บริหารที่บริษัทมีกับคุณ
นโยบายฉบับนี้มิใช่ส่วนหนึ่งของสัญญาจ้างงาน และบริษัทอาจปรับปรุงนโยบายฉบับนี้เป็นครั้งคราว กรุณาตรวจสอบนโยบายฉบับล่าสุดที่ระบบ Intranet ของบริษัท เป็นระยะ ๆ โดยบริษัทจะแจ้งเตือนให้คุณทราบหรือขอความยินยอมจากคุณอีกครั้งหากมีการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญในนโยบายฉบับนี้ หรือหากบริษัทมีความจำเป็นตามกฎหมายที่จะต้องทำการแจ้งเตือนให้คุณทราบหรือขอความยินยอมจากคุณอีกครั้ง
หากคุณคือพนักงาน ลูกจ้าง หรือผู้สมัครงาน
"ข้อมูลส่วนบุคคล" หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับคุณซึ่งระบุถึงตัวคุณหรือข้อมูลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวคุณได้ ตามที่ระบุไว้ด้านล่างนี้ ทั้งนี้ ในการจ้างงานคุณ บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลของคุณด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น บริษัทอาจร้องขอข้อมูลส่วนบุคคลจากคุณโดยตรง หรือจากแหล่งต่าง ๆ โดยอ้อม (เช่น ผู้บังคับบัญชาของคุณ หน่วยงานของรัฐ ผู้ให้บริการภายนอกด้านทรัพยากรบุคคล สื่อสังคมออนไลน์ แพลตฟอร์มออนไลน์และแหล่งข้อมูลสาธารณะอื่น ๆ)
ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณซึ่งบริษัทจะเก็บรวมรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลส่วนบุคคลประเภทดังต่อไปนี้
"ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน" หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายจัดประเภทเป็นข้อมูลที่ละเอียดอ่อน บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลที่ละเอียดอ่อนไปยังต่างประเทศก็ต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากคุณ หรือก็ต่อเมื่อกฎหมายอนุญาตให้กระทำได้
ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคุณซึ่งบริษัทจะเก็บรวมรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศ ได้แก่
หากคุณคือกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร
"ข้อมูลส่วนบุคคล" หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับกรรมการและ/หรือผู้บริหารที่ทำให้สามารถระบุตัวตนของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นส่วนของข้อมูลที่ทางบริษัทอาจได้รับข้อมูลดังกล่าวโดยตรงจากการที่คุณแจ้งข้อมูลให้แก่บริษัท ใบแบบฟอร์มการตรวจสอบคุณสมบัติหรือทะเบียนกรรมการและ/หรือผู้บริหารเข้าใหม่ หรือจากการที่บริษัทอาจตรวจสอบข้อมูลของคุณจากฐานข้อมูลของหน่วยงานราชการหรือแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือโดยเฉพาะเพื่อการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร ทั้งนี้ บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร ดังต่อไปนี้
นอกจากข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ และ/หรือผู้บริหารโดยตรงแล้ว ในกรณีที่กรรมการ และ/หรือผู้บริหาร เป็นผู้ให้ข้อมูลของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร เช่น คู่สมรส หรือบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เมื่อกรรมการ และ/หรือผู้บริหารให้ข้อมูลดังกล่าวแก่บริษัท บริษัทจะถือว่า กรรมการ และ/หรือผู้บริหารรับประกันว่า กรรมการ และ/หรือผู้บริหารมีสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าว และได้แจ้งความจำเป็นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือขอความยินยอมจากบุคคลดังกล่าวครบถ้วน และถูกต้องแล้ว ดังนั้น บริษัทย่อมมีสิทธิในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าวทั้งหมดได้โดยสมบูรณ์ ภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้
หากคุณได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกแก่บริษัท [(เช่น ชื่อ นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ ความสัมพันธ์กับคุณ] [ของคู่สมรส ผู้รับผลประโยชน์ บุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับการถือหลักทรัพย์ของคุณ)] คุณขอรับรองว่าคุณมีอำนาจที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว และอนุญาตให้บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามนโยบายฉบับนี้ได้ อีกทั้งคุณจะรับผิดชอบในการแจ้งให้บุคคลภายนอกเหล่านั้นทราบถึงนโยบายฉบับนี้ และ/หรือขอรับความยินยอมจากบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง หากจำเป็น
บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคุณไปยังต่างประเทศ เพื่อดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานของคุณ และเพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ของบริษัทในฐานะนายจ้างของคุณและในการดำเนินธุรกิจ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
บริษัทอาศัยความยินยอมของคุณในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคุณไปยังต่างประเทศเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
ในกรณีที่หลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายคือการขอความยินยอม คุณมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของคุณเมื่อใดก็ได้ โดยคุณสามารถติดต่อ หัวหน้าฝ่ายบุคคลของบริษัท เพื่อถอนความยินยอม การถอนความยินยอมจะต้องไม่กระทบต่อความชอบด้วยกฎหมายของการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย และการโอนข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคุณไปยังต่างประเทศตามความยินยอมของคุณก่อนที่จะขอถอน
บริษัทอาจอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายดังต่อไปนี้เพื่อเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ กล่าวคือ (ก) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา สำหรับการเข้าทำสัญญาจ้างงานหรือการปฏิบัติตามสัญญาจ้างงานกับคุณ (ข) เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย (ค) เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทและของบุคคลภายนอก เพื่อให้สมดุลกับประโยชน์และสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ (ง) เพื่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล และ (จ) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐ
หากคุณคือผู้สมัครงาน บริษัทจะอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายใน (ก) ถึง (จ) ข้างต้น เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
หากคุณคือพนักงานหรือลูกจ้างที่ไม่ใช่พนักงานประจำของบริษัท บริษัทจะอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายใน (ก) ถึง (จ) ข้างต้น เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
หากคุณคือกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร บริษัทจะอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายใน (ก) ถึง (จ) ข้างต้น เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
เพียงเท่าที่กฎหมายอนุญาตการที่คุณไม่ให้ข้อมูลบางอย่างแก่บริษัทเมื่อมีการร้องขออาจมีผลกระทบต่อการปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางสัญญาหรือทางกฎหมายของบริษัท ซึ่งอาจกระทบต่อกระบวนการสรรหาบุคลากร การจ้างงาน หรือการตัดสินใจจ้างงานคุณ หรือถอนการเสนอจ้างงาน
บริษัทอาจเปิดเผย หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังบุคคลภายนอกภายในประเทศไทยหรือนอกประเทศไทยดังต่อไปนี้ ซึ่งประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ตามนโยบายฉบับนี้ โดยคุณสามารถอ่านนโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลภายนอกเหล่านั้นเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่บุคคลภายนอกดังกล่าวประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณได้
หากคุณคือกรรมการและ/หรือผู้บริหาร โดยทั่วไปข้อมูลส่วนบุคคลที่กรรมการและ/หรือผู้บริหารให้แก่บริษัทจะไม่ถูกเปิดเผยให้แก่บุคคลภายนอก แต่อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการและ/หรือผู้บริหารนั้นอาจมีความจำเป็นต้องได้รับการเปิดเผยให้แก่บุคคล ดังต่อไปนี้
เมื่อบริษัทโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลภายนอก บริษัทจะดำเนินการเพื่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ เช่น การเข้าทำความตกลงการเก็บรักษาความลับ หรือการดำเนินมาตรการความปลอดภัยที่เหมาะสมตามที่กฎหมายกำหนด
บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังบุคคลภายนอก หรือเครื่องแม่ข่ายที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศซึ่งประเทศปลายทางอาจมี หรืออาจไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลในลักษณะเดียวกันกับประเทศไทย ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการตามขั้นตอนและมาตรการต่าง ๆ เพื่อทำให้คุณมั่นใจได้ว่าการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจะโอนอย่างปลอดภัยและบุคคลที่รับโอนข้อมูลนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และการโอนข้อมูลนั้นชอบด้วยกฎหมายโดยอาศัยข้อยกเว้นตามที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นอย่างสมเหตุสมผล เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นตามที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ และเพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางกฎหมายและกฎข้อบังคับต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของคุณนานขึ้นหากจำเป็นตามกฎหมายที่ใช้บังคับ และหากคุณคือกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร บริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผลและเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการและ/หรือผู้บริหารแต่ละท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ดังที่ระบุไว้ข้างต้นเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็น กล่าวคือ (i) ตลอดระยะเวลาตราบเท่าที่คุณยังมีฐานะเป็นกรรมการ และ/หรือผู้บริหารของบริษัทและตลอดระยะเวลาสัญญาที่บริษัทอาจยังมีหน้าที่ต้องปฏิบัติให้แก่กรรมการและ/หรือผู้บริหาร หรือ (ii) ตลอดระยะเวลาที่บริษัทอาจมีหน้าที่ภายใต้กฎหมายใด ๆ ในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไว้ ซึ่งอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงระยะเวลาการจัดทำเอกสารบัญชี นอกจากนี้ เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบสิทธิและการปกป้องสิทธิของบริษัทและของคุณภายใต้สถานะบริษัทและกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร บริษัทสงวนสิทธิ์ที่จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการและ/หรือผู้บริหารเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมเพิ่มเติมตามกรอบอายุความที่เหมาะสมหลังจากที่กรรมการและ/หรือผู้บริหารสิ้นสุดสภาพการเป็นกรรมการและ/หรือผู้บริหาร ทั้งนี้ บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลของคุณไว้ ตามระยะเวลาอายุความตามกฎหมายทั่วไปสูงสุด 10 ปี
โดยทั่วไป กิจกรรมของบริษัท (รวมถึงกระบวนการสรรหาบุคลากร กิจกรรมการจ้างงาน และกิจกรรมกับลูกจ้างที่ไม่ใช่พนักงานประจำ) ไม่ได้มีเป้าหมายที่ผู้เยาว์ และบริษัทจะไม่เจตนาเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ และคนไร้ความสามารถ หากคุณเป็นผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ หรือคนไร้ความสามารถซึ่งประสงค์จะมีความสัมพันธ์ทางการจ้างงานหรือทางสัญญากับบริษัท คุณต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองหรือผู้อนุบาลของคุณก่อนที่จะติดต่อบริษัทหรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณแก่บริษัท หากคุณเป็นผู้เยาว์ที่อายุเกิน 10 ปีแต่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ (โดยอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์หรือโดยการสมรส) คุณต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองของคุณ
ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายและข้อยกเว้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง คุณอาจมีสิทธิตามที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้
หากคุณมีความประสงค์ที่จะใช้สิทธิของคุณที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ หรือหากคุณประสงค์จะยื่นเรื่องร้องเรียนหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โปรดติดต่อบริษัทหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ที่
คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ฟินันเซีย เอกซ์ จำกัด (มหาชน)
ที่อยู่ที่ติดต่อ 999/9 อาคาร ดิ ออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 18, 25 ถนนพระราม 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
อีเมล dpo@finansiax.com
Senior Product Specialist (Structured Products) - Finansia Syrus (จำนวนที่รับ 1 คน)
คุณสมบัติ
ลักษณะงาน
Workplace: Mint Tower
บริษัท ฟินันเซีย เอกซ์ จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด และ บริษัท ฟินันเซีย ดิจิทัล แอสเซท จำกัด (รวมเรียกว่า "กลุ่มบริษัท ฟินันเซีย เอกซ์" หรือ "บริษัท") ซึ่งเป็นผู้ว่าจ้าง ให้คำมั่นที่จะคุ้มครองความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในข้อมูลส่วนบุคคลของพนักงานประจำและลูกจ้างที่ไม่ใช่พนักงานประจำของบริษัท ทั้งในปัจจุบัน ในอดีต และที่เกษียณแล้ว ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงาน ตลอดจนข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร (รวมเรียกว่า "คุณ" หรือ "ของคุณ") นโยบายความเป็นส่วนตัวด้านทรัพยากรบุคคลฉบับนี้ ("นโยบาย") มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลแก่คุณเกี่ยวกับวิธีการที่บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ (ตามที่นิยามไว้ด้านล่างนี้) และสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณซึ่งเกี่ยวข้องกับการจ้างงาน
บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ เพื่อที่จะเข้าทำสัญญาจ้างงานกับคุณ และปฏิบัติตามสัญญาจ้างงานในด้านที่สำคัญต่าง ๆ เช่น การจ่ายค่าจ้างและให้ผลประโยชน์แก่คุณ หากบริษัทไม่สามารถดำเนินการที่เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศตามที่ระบุในนโยบายฉบับนี้ บริษัทอาจจะไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาจ้างงานที่ทำกับคุณได้ และในบางกรณี บริษัทอาจจะไม่สามารถว่าจ้างคุณหรือว่าจ้างคุณต่อไปได้ หากคุณคือกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร บริษัทขอแจ้งนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้แก่คุณในฐานะกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร ทราบเกี่ยวกับความจำเป็นในการเก็บ รวบรวม ใช้ รวมถึงเปิดเผย หรือส่งต่อข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ และ/หรือผู้บริหารที่บริษัทจำเป็นต้องดำเนินการ เพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะบริษัทต่อคุณตามกฎหมาย อันได้แก่ พระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด และประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ รวมถึงระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เป็นต้น และภายใต้สัญญาการแต่งตั้งกรรมการและ/หรือผู้บริหารที่บริษัทมีกับคุณ
นโยบายฉบับนี้มิใช่ส่วนหนึ่งของสัญญาจ้างงาน และบริษัทอาจปรับปรุงนโยบายฉบับนี้เป็นครั้งคราว กรุณาตรวจสอบนโยบายฉบับล่าสุดที่ระบบ Intranet ของบริษัท เป็นระยะ ๆ โดยบริษัทจะแจ้งเตือนให้คุณทราบหรือขอความยินยอมจากคุณอีกครั้งหากมีการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญในนโยบายฉบับนี้ หรือหากบริษัทมีความจำเป็นตามกฎหมายที่จะต้องทำการแจ้งเตือนให้คุณทราบหรือขอความยินยอมจากคุณอีกครั้ง
หากคุณคือพนักงาน ลูกจ้าง หรือผู้สมัครงาน
"ข้อมูลส่วนบุคคล" หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับคุณซึ่งระบุถึงตัวคุณหรือข้อมูลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวคุณได้ ตามที่ระบุไว้ด้านล่างนี้ ทั้งนี้ ในการจ้างงานคุณ บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลของคุณด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น บริษัทอาจร้องขอข้อมูลส่วนบุคคลจากคุณโดยตรง หรือจากแหล่งต่าง ๆ โดยอ้อม (เช่น ผู้บังคับบัญชาของคุณ หน่วยงานของรัฐ ผู้ให้บริการภายนอกด้านทรัพยากรบุคคล สื่อสังคมออนไลน์ แพลตฟอร์มออนไลน์และแหล่งข้อมูลสาธารณะอื่น ๆ)
ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณซึ่งบริษัทจะเก็บรวมรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลส่วนบุคคลประเภทดังต่อไปนี้
"ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน" หมายถึง ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายจัดประเภทเป็นข้อมูลที่ละเอียดอ่อน บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลที่ละเอียดอ่อนไปยังต่างประเทศก็ต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากคุณ หรือก็ต่อเมื่อกฎหมายอนุญาตให้กระทำได้
ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคุณซึ่งบริษัทจะเก็บรวมรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศ ได้แก่
หากคุณคือกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร
"ข้อมูลส่วนบุคคล" หมายถึง ข้อมูลเกี่ยวกับกรรมการและ/หรือผู้บริหารที่ทำให้สามารถระบุตัวตนของคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นส่วนของข้อมูลที่ทางบริษัทอาจได้รับข้อมูลดังกล่าวโดยตรงจากการที่คุณแจ้งข้อมูลให้แก่บริษัท ใบแบบฟอร์มการตรวจสอบคุณสมบัติหรือทะเบียนกรรมการและ/หรือผู้บริหารเข้าใหม่ หรือจากการที่บริษัทอาจตรวจสอบข้อมูลของคุณจากฐานข้อมูลของหน่วยงานราชการหรือแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือโดยเฉพาะเพื่อการตรวจสอบคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามของกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร ทั้งนี้ บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บ รวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร ดังต่อไปนี้
นอกจากข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการ และ/หรือผู้บริหารโดยตรงแล้ว ในกรณีที่กรรมการ และ/หรือผู้บริหาร เป็นผู้ให้ข้อมูลของบุคคลที่เกี่ยวข้องกับกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร เช่น คู่สมรส หรือบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ เมื่อกรรมการ และ/หรือผู้บริหารให้ข้อมูลดังกล่าวแก่บริษัท บริษัทจะถือว่า กรรมการ และ/หรือผู้บริหารรับประกันว่า กรรมการ และ/หรือผู้บริหารมีสิทธิอันชอบด้วยกฎหมายในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าว และได้แจ้งความจำเป็นในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือขอความยินยอมจากบุคคลดังกล่าวครบถ้วน และถูกต้องแล้ว ดังนั้น บริษัทย่อมมีสิทธิในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลดังกล่าวทั้งหมดได้โดยสมบูรณ์ ภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้
หากคุณได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกแก่บริษัท [(เช่น ชื่อ นามสกุล หมายเลขโทรศัพท์ ความสัมพันธ์กับคุณ] [ของคู่สมรส ผู้รับผลประโยชน์ บุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับการถือหลักทรัพย์ของคุณ)] คุณขอรับรองว่าคุณมีอำนาจที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว และอนุญาตให้บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามนโยบายฉบับนี้ได้ อีกทั้งคุณจะรับผิดชอบในการแจ้งให้บุคคลภายนอกเหล่านั้นทราบถึงนโยบายฉบับนี้ และ/หรือขอรับความยินยอมจากบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง หากจำเป็น
บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคุณไปยังต่างประเทศ เพื่อดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานของคุณ และเพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ของบริษัทในฐานะนายจ้างของคุณและในการดำเนินธุรกิจ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
บริษัทอาศัยความยินยอมของคุณในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคุณไปยังต่างประเทศเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
ในกรณีที่หลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายคือการขอความยินยอม คุณมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของคุณเมื่อใดก็ได้ โดยคุณสามารถติดต่อ หัวหน้าฝ่ายบุคคลของบริษัท เพื่อถอนความยินยอม การถอนความยินยอมจะต้องไม่กระทบต่อความชอบด้วยกฎหมายของการเก็บรวบรวม การใช้ การเปิดเผย และการโอนข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคุณไปยังต่างประเทศตามความยินยอมของคุณก่อนที่จะขอถอน
บริษัทอาจอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายดังต่อไปนี้เพื่อเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ กล่าวคือ (ก) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา สำหรับการเข้าทำสัญญาจ้างงานหรือการปฏิบัติตามสัญญาจ้างงานกับคุณ (ข) เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย (ค) เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทและของบุคคลภายนอก เพื่อให้สมดุลกับประโยชน์และสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ (ง) เพื่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล และ (จ) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐ
หากคุณคือผู้สมัครงาน บริษัทจะอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายใน (ก) ถึง (จ) ข้างต้น เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
หากคุณคือพนักงานหรือลูกจ้างที่ไม่ใช่พนักงานประจำของบริษัท บริษัทจะอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายใน (ก) ถึง (จ) ข้างต้น เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
หากคุณคือกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร บริษัทจะอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายใน (ก) ถึง (จ) ข้างต้น เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
เพียงเท่าที่กฎหมายอนุญาตการที่คุณไม่ให้ข้อมูลบางอย่างแก่บริษัทเมื่อมีการร้องขออาจมีผลกระทบต่อการปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางสัญญาหรือทางกฎหมายของบริษัท ซึ่งอาจกระทบต่อกระบวนการสรรหาบุคลากร การจ้างงาน หรือการตัดสินใจจ้างงานคุณ หรือถอนการเสนอจ้างงาน
บริษัทอาจเปิดเผย หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังบุคคลภายนอกภายในประเทศไทยหรือนอกประเทศไทยดังต่อไปนี้ ซึ่งประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ตามนโยบายฉบับนี้ โดยคุณสามารถอ่านนโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลภายนอกเหล่านั้นเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่บุคคลภายนอกดังกล่าวประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณได้
หากคุณคือกรรมการและ/หรือผู้บริหาร โดยทั่วไปข้อมูลส่วนบุคคลที่กรรมการและ/หรือผู้บริหารให้แก่บริษัทจะไม่ถูกเปิดเผยให้แก่บุคคลภายนอก แต่อย่างไรก็ตาม ในบางกรณีข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการและ/หรือผู้บริหารนั้นอาจมีความจำเป็นต้องได้รับการเปิดเผยให้แก่บุคคล ดังต่อไปนี้
เมื่อบริษัทโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลภายนอก บริษัทจะดำเนินการเพื่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ เช่น การเข้าทำความตกลงการเก็บรักษาความลับ หรือการดำเนินมาตรการความปลอดภัยที่เหมาะสมตามที่กฎหมายกำหนด
บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังบุคคลภายนอก หรือเครื่องแม่ข่ายที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศซึ่งประเทศปลายทางอาจมี หรืออาจไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลในลักษณะเดียวกันกับประเทศไทย ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการตามขั้นตอนและมาตรการต่าง ๆ เพื่อทำให้คุณมั่นใจได้ว่าการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจะโอนอย่างปลอดภัยและบุคคลที่รับโอนข้อมูลนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และการโอนข้อมูลนั้นชอบด้วยกฎหมายโดยอาศัยข้อยกเว้นตามที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นอย่างสมเหตุสมผล เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นตามที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้ และเพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางกฎหมายและกฎข้อบังคับต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของคุณนานขึ้นหากจำเป็นตามกฎหมายที่ใช้บังคับ และหากคุณคือกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร บริษัทมีความจำเป็นต้องประมวลผลและเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการและ/หรือผู้บริหารแต่ละท่าน เพื่อวัตถุประสงค์ดังที่ระบุไว้ข้างต้นเป็นระยะเวลาเท่าที่จำเป็น กล่าวคือ (i) ตลอดระยะเวลาตราบเท่าที่คุณยังมีฐานะเป็นกรรมการ และ/หรือผู้บริหารของบริษัทและตลอดระยะเวลาสัญญาที่บริษัทอาจยังมีหน้าที่ต้องปฏิบัติให้แก่กรรมการและ/หรือผู้บริหาร หรือ (ii) ตลอดระยะเวลาที่บริษัทอาจมีหน้าที่ภายใต้กฎหมายใด ๆ ในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไว้ ซึ่งอาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงระยะเวลาการจัดทำเอกสารบัญชี นอกจากนี้ เพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบสิทธิและการปกป้องสิทธิของบริษัทและของคุณภายใต้สถานะบริษัทและกรรมการ และ/หรือผู้บริหาร บริษัทสงวนสิทธิ์ที่จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของกรรมการและ/หรือผู้บริหารเป็นระยะเวลาที่เหมาะสมเพิ่มเติมตามกรอบอายุความที่เหมาะสมหลังจากที่กรรมการและ/หรือผู้บริหารสิ้นสุดสภาพการเป็นกรรมการและ/หรือผู้บริหาร ทั้งนี้ บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลของคุณไว้ ตามระยะเวลาอายุความตามกฎหมายทั่วไปสูงสุด 10 ปี
โดยทั่วไป กิจกรรมของบริษัท (รวมถึงกระบวนการสรรหาบุคลากร กิจกรรมการจ้างงาน และกิจกรรมกับลูกจ้างที่ไม่ใช่พนักงานประจำ) ไม่ได้มีเป้าหมายที่ผู้เยาว์ และบริษัทจะไม่เจตนาเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ และคนไร้ความสามารถ หากคุณเป็นผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ หรือคนไร้ความสามารถซึ่งประสงค์จะมีความสัมพันธ์ทางการจ้างงานหรือทางสัญญากับบริษัท คุณต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองหรือผู้อนุบาลของคุณก่อนที่จะติดต่อบริษัทหรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณแก่บริษัท หากคุณเป็นผู้เยาว์ที่อายุเกิน 10 ปีแต่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ (โดยอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์หรือโดยการสมรส) คุณต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองของคุณ
ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายและข้อยกเว้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง คุณอาจมีสิทธิตามที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้
หากคุณมีความประสงค์ที่จะใช้สิทธิของคุณที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ หรือหากคุณประสงค์จะยื่นเรื่องร้องเรียนหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ โปรดติดต่อบริษัทหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ที่
คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
บริษัท ฟินันเซีย เอกซ์ จำกัด (มหาชน)
ที่อยู่ที่ติดต่อ 999/9 อาคาร ดิ ออฟฟิศเศส แอท เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 18, 25 ถนนพระราม 1 แขวงปทุมวัน เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
อีเมล dpo@finansiax.com
สงวนลิขสิทธิ์ 2558- บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน)
ข้อตกลงการใช้เว็บไซต์อยู่ภายใต้ เงื่อนไขการใช้บริการ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ : webmaster@fnsyrus.com