บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) ("บริษัท") ซึ่งเป็นบริษัทผู้ว่าจ้าง
ให้คำมั่นที่จะคุ้มครองความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของ
พนักงานประจำและลูกจ้างที่ไม่ใช่พนักงานประจำของบริษัท ทั้งในปัจจุบัน ในอดีต
และที่เกษียณแล้ว ตลอดจนข้อมูลส่วนบุคคลของผู้สมัครงาน
("คุณ" หรือ "ของคุณ")
นโยบายความเป็นส่วนตัวด้านทรัพยากรบุคคลฉบับนี้ ("นโยบาย")
มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลแก่คุณเกี่ยวกับวิธีการที่บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้
เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ
(ตามที่นิยามไว้ด้านล่างนี้)
และสิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณซึ่งเกี่ยวข้องกับการจ้างงาน
บริษัทมีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย
และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ
เพื่อที่จะเข้าทำสัญญาจ้างงานกับคุณ
และปฏิบัติตามสัญญาจ้างงานในด้านที่สำคัญต่าง ๆ เช่น
การจ่ายค่าจ้างและให้ผลประโยชน์แก่คุณ
หากบริษัทไม่สามารถดำเนินการที่เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย
และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศตามที่ระบุในนโยบายฉบับนี้
บริษัทอาจจะไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาจ้างงานที่ทำกับคุณได้ และในบางกรณี
บริษัทอาจจะไม่สามารถว่าจ้างคุณหรือว่าจ้างคุณต่อไปได้
นโยบายฉบับนี้มิใช่ส่วนหนึ่งของสัญญาจ้างงาน
และบริษัทอาจปรับปรุงนโยบายฉบับนี้เป็นครั้งคราว
กรุณาตรวจสอบนโยบายฉบับล่าสุดที่เว็บไซต์ของบริษัท เป็นระยะ ๆ
โดยบริษัทจะแจ้งเตือนให้คุณทราบหรือขอความยินยอมจากคุณอีกครั้งหากมีการเปลี่ยนแปลงที่มีนัยสำคัญในนโยบายฉบับนี้
หรือหากบริษัทมีความจำเป็นตามกฎหมายที่จะต้องทำการแจ้งเตือนให้คุณทราบหรือขอความยินยอมจากคุณอีกครั้ง
- ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทเก็บรวบรวมเกี่ยวกับพนักงานลูกจ้าง
"ข้อมูลส่วนบุคคล" หมายถึง
ข้อมูลเกี่ยวกับคุณซึ่งระบุถึงตัวคุณหรือข้อมูลซึ่งทำให้สามารถระบุตัวคุณได้
ตามที่ระบุไว้ด้านล่างนี้ ทั้งนี้ ในการจ้างงานคุณ
บริษัทอาจเก็บรวบรวมข้อมูลของคุณด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น
บริษัทอาจร้องขอข้อมูลส่วนบุคคลจากคุณโดยตรง หรือจากแหล่งต่าง ๆ โดยอ้อม
(เช่น ผู้บังคับบัญชาของคุณ หน่วยงานของรัฐ
ผู้ให้บริการภายนอกด้านทรัพยากรบุคคล สื่อสังคมออนไลน์ แพลตฟอร์มออนไลน์
และแหล่งข้อมูลสาธารณะอื่น ๆ)
ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณซึ่งบริษัทจะเก็บรวมรวม ใช้ เปิดเผย
และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศ
รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงข้อมูลส่วนบุคคลประเภทดังต่อไปนี้
- ข้อมูลระบุตัวบุคคลและรายละเอียดการติดต่อ เช่น ชื่อเต็ม วันเกิด
สัญชาติ
ที่อยู่ อีเมล หมายเลขโทรศัพท์ เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน
และเลขหนังสือเดินทาง
- ข้อมูลส่วนตัวอื่น ๆ เช่น สถานภาพทางการสมรส ข้อมูลเกี่ยวกับคู่สมรส
ข้อมูลเกี่ยวกับบุตร และหรือบิดามารดา รายละเอียดการติดต่อในกรณีฉุกเฉิน
และผู้รับผลประโยชน์
- ข้อมูลเกี่ยวกับงาน เช่น ตำแหน่งหรือฐานะ ตำแหน่งงาน แผนก
รายละเอียดเกี่ยวกับสัญญา ประวัติส่วนตัว ประวัติการจ้างงาน
และใบสมัครงาน
- ข้อมูลเกี่ยวกับเงินเดือนและผลประโยชน์ของคุณ เช่น ข้อมูลค่าจ้าง
เงินเดือน ค่าตอบแทน และสิทธิที่จะได้รับผลประโยชน์
รวมทั้งสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ
- ข้อมูลบัญชีธนาคาร
- ข้อมูลการขาดงาน เช่น วันที่ขาดงาน
หรือการใช้วันหยุดพักร้อนและวันลาประเภทอื่นของคุณ
- ข้อมูลเกี่ยวกับการดำเนินการทางวินัย เช่น
การประพฤติมิชอบหรือพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมในฐานะพนักงาน
- ประวัติการประเมินผล เช่น
การประเมินผลการปฏิบัติงานและการพิจารณาทบทวนผลการปฏิบัติงาน
- ประวัติการศึกษา เช่น ประวัติการเรียน ใบรับรองผลการศึกษา
ประกาศนียบัตร
- สถานภาพทางทหาร
- ข้อมูลการถือหลักทรัพย์และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ
"ข้อมูลที่ละเอียดอ่อน" หมายถึง
ข้อมูลส่วนบุคคลที่กฎหมายจัดประเภทเป็นข้อมูลที่ละเอียดอ่อน
บริษัทจะเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย
และ/หรือโอนข้อมูลที่ละเอียดอ่อนไปยังต่างประเทศก็ต่อเมื่อได้รับความยินยอมโดยชัดแจ้งจากคุณ
หรือก็ต่อเมื่อกฎหมายอนุญาตให้กระทำได้
ข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคุณซึ่งบริษัทจะเก็บรวมรวม ใช้ เปิดเผย
และ/หรือโอนไปยังต่างประเทศ ได้แก่
- ข้อมูลชีวภาพ (เช่น ระบบจดจำใบหน้า ลายนิ้วมือ)
- ข้อมูลสุขภาพ (เช่น ผลการทดสอบการใช้ยา ข้อมูลการรักษาพยาบาล
และข้อมูลการตรวจสุขภาพประจำปี)
- ประวัติอาชญากรรม
- เชื้อชาติและศาสนา
หากคุณได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอกแก่บริษัท [(เช่น ชื่อ นามสกุล
หมายเลขโทรศัพท์ ความสัมพันธ์กับคุณ] [ของคู่สมรส ผู้รับผลประโยชน์
บุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน บุคคลอ้างอิง
และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับการถือหลักทรัพย์ของคุณ)]
คุณขอรับรองว่าคุณมีอำนาจที่จะให้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว
และอนุญาตให้บริษัทใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวตามนโยบายฉบับนี้ได้
อีกทั้งคุณจะรับผิดชอบในการแจ้งให้บุคคลภายนอกเหล่านั้นทราบถึงนโยบายฉบับนี้
และ/หรือขอรับความยินยอมจากบุคคลภายนอกที่เกี่ยวข้อง หากจำเป็น
- วัตถุประสงค์และหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมาย
บริษัทเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย
และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคุณไปยังต่างประเทศ
เพื่อดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานของคุณ
และเพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ของบริษัทในฐานะนายจ้างของคุณและในการดำเนินธุรกิจ
เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
-
วัตถุประสงค์ที่บริษัทจำเป็นต้องได้รับความยินยอมของคุณสำหรับข้อมูลที่ละเอียดอ่อน
บริษัทอาศัยความยินยอมของคุณในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย
และ/หรือโอนข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคุณไปยังต่างประเทศเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
- ข้อมูลชีวภาพ เช่น ระบบจดจำใบหน้า ลายนิ้วมือ เพื่อการเข้าไปในอาคาร
- ประวัติอาชญากรรมและข้อมูลสุขภาพ
เพื่อการพิจารณาใบสมัครงานและตัดสินใจจ้างงาน
การคัดกรองประวัติและการติดตามตรวจสอบ
- ข้อมูลเชื้อชาติและศาสนา
เพื่อการให้โอกาสอย่างเท่าเทียมและความหลากหลาย
-
วัตถุประสงค์ทางด้านสถิติและการวิเคราะห์เพื่อการปรับปรุงบุคลากรและวิธีปฏิบัติในการจ้างงาน
ในกรณีที่หลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายคือการขอความยินยอม
คุณมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมของคุณเมื่อใดก็ได้ โดยคุณสามารถติดต่อ
หัวหน้าฝ่ายบุคคลของบริษัท เพื่อถอนความยินยอม
การถอนความยินยอมจะต้องไม่กระทบต่อความชอบด้วยกฎหมายของการเก็บรวบรวม
การใช้ การเปิดเผย
และการโอนข้อมูลที่ละเอียดอ่อนของคุณไปยังต่างประเทศตามความยินยอมของคุณก่อนที่จะขอถอน
-
วัตถุประสงค์ที่บริษัทอาจดำเนินการโดยอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายอื่นๆ
ในการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย และโอนข้อมูล
ส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ
บริษัทอาจอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายดังต่อไปนี้เพื่อเก็บรวบรวม ใช้
เปิดเผย และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ กล่าวคือ (ก)
เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา
สำหรับการเข้าทำสัญญาจ้างงานหรือการปฏิบัติตามสัญญาจ้างงานกับคุณ (ข)
เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย (ค)
เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของบริษัทและของบุคคลภายนอก
เพื่อให้สมดุลกับประโยชน์และสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
(ง) เพื่อการป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
และ (จ)
เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือปฏิบัติหน้าที่ในการใช้อำนาจรัฐ
หากคุณคือผู้สมัครงาน บริษัทจะอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายใน (ก) ถึง
(จ) ข้างต้น เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย
และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ
เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
- การประมวลผลใบสมัครของคุณสำหรับการฝึกงาน งานนอกเวลา งานชั่วคราว
หรือการจ้างงาน
- การยืนยันตัวบุคคลและการติดต่อ
- การประเมินและให้คะแนนผู้สมัคร เพื่อการตัดสินใจจ้าง
- การประเมินความเหมาะสม
- การจ่ายเงินเดือนหรือค่าตอบแทน และการให้เบิกจ่ายค่าใช้จ่ายต่าง ๆ
- การคัดกรองประวัติ
หากพนักงาน/ลูกจ้างได้รับการเสนอตำแหน่งงานกับบริษัท
- การติดต่อในกรณีฉุกเฉินไปยังบุคคลที่คุณกำหนด
- วัตถุประสงค์อื่น ๆ ที่บริษัทต้องการอย่างสมเหตุสมผล
ตามที่ระบุไว้ในใบสมัครงานหรือเอกสารที่เกี่ยวข้องใด ๆ
หากคุณคือพนักงานหรือลูกจ้างที่ไม่ใช่พนักงานประจำของบริษัท
บริษัทจะอาศัยหลักเกณฑ์หรือฐานทางกฎหมายใน (ก) ถึง (จ) ข้างต้น
เพื่อการเก็บรวบรวม ใช้ เปิดเผย
และ/หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ
เพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้
- การสรรหาบุคลากร เช่น
การตัดสินใจจ้างหรือเปลี่ยนแปลงประเภทของสัญญาจ้างงาน (เช่น
การเปลี่ยนสถานภาพของคุณจากผู้ฝึกงาน ลูกจ้างชั่วคราว หรืองานนอกเวลา
เป็นพนักงานประจำ)
- การจัดให้มีการฝึกอบรม เครื่องมือ และอุปกรณ์ที่จำเป็น
และกระบวนการปฐมนิเทศและเรียนรู้งาน (on-boarding processes)
- เงินเดือน ค่าตอบแทน และการให้ผลประโยชน์ต่าง ๆ เช่น ค่าจ้าง โบนัส
และสวัสดิการ
- การบริหารจัดการภายในองค์กร เช่น การจัดสรรทรัพยากร การตรวจสอบภายใน
และงานธุรการ
- การบริหารจัดการการลาให้สอดคล้องกับข้อบังคับการทำงานของบริษัท
- การติดต่อสื่อสาร รวมถึงการให้การอ้างอิงและคำแนะนำ
- วัตถุประสงค์ทางด้านสถิติและการวิเคราะห์
เพื่อการปรับปรุงบุคลากรและวิธีปฏิบัติในการจ้างงาน
- การปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางกฎหมาย เช่น ข้อกำหนดเกี่ยวกับแรงงาน
สุขอนามัย และความปลอดภัย หรือตามที่หน่วยงานของรัฐร้องขอ
- การจัดเก็บประวัติการดำเนินการทางวินัยต่อพนักงาน
เพื่อการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ
หรือการกำหนดมาตรการทางวินัยเมื่อจำเป็น
- การดำเนินการตรวจสอบภายในเพื่อติดตามเรื่องร้องเรียนหรือการเรียกร้อง
ติดตามพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของพนักงาน และป้องกันการฉ้อโกง
- การติดต่อในกรณีฉุกเฉินไปยังบุคคลที่คุณกำหนด
- การป้องกันกิจกรรมของพนักงานซึ่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย
หรือการละเลยหน้าที่
- การคุ้มครองความลับของข้อมูลและสินทรัพย์ของบริษัท
- วัตถุประสงค์อื่น ๆ
ที่บริษัทต้องการอย่างสมเหตุสมผลโดยเกี่ยวข้องกับการจ้างงานของคุณ
(เช่น
การดำเนินกิจกรรมหรือการดำเนินงานเพื่อหรือในนามของบริษัท)
หรือตามที่ระบุไว้ในสัญญาจ้างงานของคุณ ข้อบังคับการทำงาน หรือเอกสารใด
ๆ
ที่เกี่ยวข้องกับทรัพยากรบุคคล
เพียงเท่าที่กฎหมายอนุญาต
การที่คุณไม่ให้ข้อมูลบางอย่างแก่บริษัทเมื่อมีการร้องขอ
อาจมีผลกระทบต่อการปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางสัญญาหรือทางกฎหมายของบริษัท
ซึ่งอาจกระทบต่อกระบวนการสรรหาบุคลากร การจ้างงาน
หรือการตัดสินใจจ้างงานคุณ หรือการถอนการเสนอจ้างงาน
- บุคคลใดที่บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณให้
บริษัทอาจเปิดเผย
หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังบุคคลภายนอกภายในประเทศไทยหรือนอกประเทศไทยดังต่อไปนี้
ซึ่งประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์ตามนโยบายฉบับนี้
โดยคุณสามารถอ่านนโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลภายนอกเหล่านั้นเพื่อศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการที่บุคคลภายนอกดังกล่าวประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณได้
- กลุ่มบริษัท:
ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณอาจถูกเข้าถึงโดยหรือแบ่งปันกับนิติบุคคลอื่นภายในกลุ่มของบริษัท
เพื่อการวิเคราะห์ข้อมูล การรายงานผลการดำเนินงานของบริษัท
การบริหารความเสี่ยงหรือการตรวจสอบภายในกลุ่มของบริษัท
- หน่วยงานของรัฐ:
บริษัทแบ่งปันข้อมูลส่วนบุคคลของคุณกับหน่วยงานของรัฐและองค์กรต่าง ๆ
(เช่น ศาล สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ธนาคารแห่งประเทศไทย กรมสรรพากร
หน่วยงานภาษีอากรในต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน สำนักงานประกันสังคม
กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมบังคับคดี กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา
และสำนักงานส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแห่งชาติ)
ตามที่กฎหมายกำหนด เพื่อการปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบ
หรือภาระหน้าที่ทางกฎหมาย
- บุคคลภายนอกอื่น ๆ: บริษัทอาจโอนหรืออนุญาตให้บุคคลภายนอก (เช่น
พันธมิตรทางธุรกิจและผู้ให้บริการของบริษัท (อาทิ
ผู้จัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ธนาคาร ผู้ให้บริการชำระเงิน
บริษัทประกันภัย โรงพยาบาล ตัวแทนยื่นขอวีซ่าหรือใบอนุญาตทำงาน
บริษัทที่ปรึกษาด้านทรัพยากรบุคคล ผู้ให้บริการระบบสารสนเทศทรัพยากรบุคคล
ผู้ให้บริการฝึกอบรม หรือผู้ให้บริการทางการเงิน)
เข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
สำหรับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ระบุในข้อ
2 ของนโยบายฉบับนี้
เมื่อบริษัทโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้บุคคลภายนอก
บริษัทจะดำเนินการเพื่อการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ เช่น
การเข้าทำความตกลงการเก็บรักษาความลับ
หรือการดำเนินมาตรการความปลอดภัยที่เหมาะสมตามที่กฎหมายกำหนด
- การโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังต่างประเทศ
บริษัทอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณไปยังบุคคลภายนอก
หรือเครื่องแม่ข่ายที่ตั้งอยู่ในต่างประเทศซึ่งประเทศปลายทางอาจมี
หรืออาจไม่มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลในลักษณะเดียวกันกับประเทศไทย ทั้งนี้
บริษัทจะดำเนินการตามขั้นตอนและมาตรการต่าง ๆ
เพื่อทำให้คุณมั่นใจได้ว่าการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของคุณจะโอนอย่างปลอดภัยและบุคคลที่รับโอนข้อมูลนั้นมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม
และการโอนข้อมูลนั้นชอบด้วยกฎหมายโดยอาศัยข้อยกเว้นตามที่ได้รับอนุญาตตามกฎหมาย
- ระยะเวลาที่บริษัทเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
บริษัทจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในระยะเวลาเท่าที่จำเป็นอย่างสมเหตุสมผล
เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ที่บริษัทได้รับข้อมูลส่วนบุคคลนั้นตามที่ระบุไว้ในนโยบายฉบับนี้
และเพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางกฎหมายและกฎข้อบังคับต่าง ๆ อย่างไรก็ตาม
บริษัทอาจเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของคุณนานขึ้นหากจำเป็นตามกฎหมายที่ใช้บังคับ
- ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์
โดยทั่วไป กิจกรรมของบริษัท (รวมถึงกระบวนการสรรหาบุคลากร
กิจกรรมการจ้างงาน และกิจกรรมกับลูกจ้างที่ไม่ใช่พนักงานประจำ)
ไม่ได้มีเป้าหมายที่ผู้เยาว์
และบริษัทจะไม่เจตนาเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของผู้เยาว์
คนเสมือนไร้ความสามารถ และคนไร้ความสามารถ หากคุณเป็นผู้เยาว์
คนเสมือนไร้ความสามารถ
หรือคนไร้ความสามารถซึ่งประสงค์จะมีความสัมพันธ์ทางการจ้างงานหรือทางสัญญากับบริษัท
คุณต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองหรือผู้อนุบาลของคุณก่อนที่จะติดต่อบริษัทหรือให้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณแก่บริษัท
หากคุณเป็นผู้เยาว์ที่อายุเกิน 10 ปีแต่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ (โดยอายุครบ 20
ปีบริบูรณ์หรือโดยการสมรส)
คุณต้องได้รับความยินยอมจากผู้ใช้อำนาจปกครองของคุณ
- สิทธิในข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
ภายใต้บทบัญญัติแห่งกฎหมายและข้อยกเว้นตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
คุณอาจมีสิทธิตามที่ระบุไว้ดังต่อไปนี้
- การเข้าถึง:
คุณอาจมีสิทธิในการขอเข้าถึงหรือขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทประมวลผลเกี่ยวกับคุณ
- การโอนย้ายข้อมูล:
คุณอาจมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทมีเกี่ยวกับคุณในรูปแบบที่มีการจัดระเบียบแล้วและสามารถอ่านได้ในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์
และเพื่อส่งหรือโอนข้อมูลดังกล่าวไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่น
- การคัดค้าน: ในบางกรณี
คุณอาจมีสิทธิคัดค้านวิธีการที่บริษัทประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณในบางกิจกรรม
- การลบหรือทำลายข้อมูล: คุณอาจมีสิทธิขอให้บริษัทดำเนินการลบหรือทำลาย
หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของคุณที่บริษัทประมวลผลเกี่ยวกับคุณ
เป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูล เช่น
หากข้อมูลนั้นไม่จำเป็นสำหรับวัตถุประสงค์ในการประมวลผลข้อมูลอีกต่อไป
- การจำกัด: คุณอาจมีสิทธิจำกัดการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
หากคุณเชื่อว่าข้อมูลนั้นไม่ถูกต้อง
หรือการประมวลผลของบริษัทไม่ชอบด้วยกฎหมาย
หรือบริษัทไม่จำเป็นต้องประมวลผลข้อมูลนั้นเพื่อวัตถุประสงค์อย่างหนึ่งอย่างใดอีกต่อไป
- การแก้ไขให้ถูกต้อง:
คุณอาจมีสิทธิขอให้มีการดำเนินการแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่สมบูรณ์
ไม่ถูกต้อง ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือไม่เป็นปัจจุบัน
- การถอนความยินยอม:
คุณอาจมีสิทธิที่จะถอนความยินยอมที่คุณได้ให้แก่บริษัทเพื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
เว้นแต่มีข้อจำกัดเกี่ยวกับสิทธิที่จะถอนความยินยอมตามที่กฎหมายกำหนด
หรือมีสัญญาที่ให้ประโยชน์แก่คุณ
- การยื่นเรื่องร้องเรียน:
คุณอาจมีสิทธิยื่นเรื่องร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่มีอำนาจในกรณีที่คุณเชื่อว่าบริษัททำการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของคุณโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายหรือไม่สอดคล้องกับกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่บังคับใช้
- รายละเอียดการติดต่อบริษัท
หากคุณมีความประสงค์ที่จะใช้สิทธิของคุณที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ
หรือหากคุณประสงค์จะยื่นเรื่องร้องเรียนหรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม
การใช้
และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณภายใต้นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้
โปรดติดต่อบริษัทหรือเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท
ที่
คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (ผ่านฝ่ายทรัพยากรบุคคล)
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน)
ที่อยู่ที่ติดต่อ อาคารมิ้นท์ทาวเวอร์ เลขที่ 719 ชั้น 7 ถนนบรรทัดทอง แขวงวังใหม่ เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร
โทรศัพท์ 02-6800-775 และ 02-6800-770 อีเมล dpo@fnsyrus.com